บทที่ 1 รับรู้ข้อมูล
ความหมายของข้อมูล
ข้อมูล หมายถึง ข้อเท็จจริงหรือเหตุการณ์ที่เกี่ยวกับสิ่งต่างๆ ได้แก่ คน สัตว์ สิ่งของ สถานที่ รวมถึงสิ่งต่างๆ
ที่เรารับรู้ได้โดยการ ดู ฟัง ดมกลิ่ม สัมผัส และชิมรสชาติ
1. ข้อมูลรอบตัว ในแต่ละวันเราจะพบเห็นสิ่งต่างๆ มากมาย สิ่งที่เราพบเห็นนี้คือข้อมูลนั่นเอง
ได้แก่
1) ข้อมูลเกี่ยวกับบุคคล เช่น ข้อมูลของนักเรียน ข้อมูลของคุณพ่อคุณแม่ เป็นต้น
![]() ข้อมูลของวัด ข้อมูลของห้องสมุด เป็นต้น ![]() 3) ข้อมูลเกี่ยวกับสิ่งของ เช่น ข้อมูลเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ ข้อมูลเกี่ยวกับเครื่องใช้ไฟฟ้า ข้อมูลเกี่ยวกับหน้งสือเรียน ข้อมูลเกี่ยวกับอุปกรณ์เครื่องใช้ ข้อมูลเกี่ยวกับอาหาร เป็นต้น ![]() ![]() ![]() 4) ข้อมูลเกี่ยวกับสัตว์ เช่น ข้อมูลของแมวพันธุ์ต่างๆ ข้อมูลของนกแก้ว ข้อมูลของปลา หางนกยูง เป็นต้น ![]() ![]() 5) ข้อมูลเกี่ยวกับพืช เช่นข้อมูลเกี่ยวกับป่าไม้ ข้อมูลเกี่ยวกับการทำนาทำไร่ ข้อมูลเกี่ยว กับพันธุ์ข้าว ข้อมูลเกี่ยวกับพันธุ์ข้าวโพด เป็นต้น ![]() 6) ข้อมูลเกี่ยวกับธรรมชาติ เช่น ข้อมูลเกี่ยวกับดิน น้ำ อากาศ แร่ธาตุ ป่าไม้ ภัยธรรมชาติ เป็นต้น ![]() 7) ข้อมูลเกี่ยวกับเหตุการณ์ต่างๆ เช่น ข้อมูลการเดินทาง ท่องเที่ยว ข้อมูลการคมนาคม เป็นต้น ![]() 2. การรับรู้ข้อมูล เราสามารถรับรู้ข้อมูลผ่านประสาทสัมผัส ทั้ง 5 คือ ตา หู จมูก ลิ้น และผิวหนัง ดังนี้ ![]()
ประเภทของข้อมูล
ข้อมูลแบ่งออกได้เป็น 4 ประเภท ดังนี้
1. ข้อมูลภาพ หมายถึง ข้อมูลที่เป็นรูปภาพในลักษณะต่างๆ ที่เรามองเห็น อาจเป็นภาพนิ่งหรือ
ภาพเคลื่อนไหว หรือข้อมูลภาพของสิ่งต่างๆ ทั้งสิ่งที่มีชีวิตและไม่มีชีวิตที่เรามองเห็นด้วย
![]() ![]() ![]()
2. ข้อมูลตัวอักษร หมายถึง ข้อมูลที่ประกอบด้วยตัวอักษร ทั้งภาษาไทย ภาษาต่างประเทศ
และตัวเลขที่ไม่ใช้ในการคำนวณ
![]()
3. ข้อมูลตัวเลข หมายถึง ข้อมูลที่ประกอบด้วยตัวเลข 0 ถึง 9 ซึ่งใช้ในการคิดคำนวณได้
![]()
4. ข้อมูลอื่นๆ เป็นข้อมูลที่ไม่ใช่ข้อมูลภาพ ข้อมูลตัวอักษร หรือข้อมูลตัวเลข เช่น ข้อมูล
เกี่ยวกับเสียง สี ความร้อนหรือเย็น ความมืดหรือสว่าง กลิ่น เป็นต้น
![]() ![]() ![]()
ประโยชน์ของข้อมูล
ข้อมูลในชีวิตประจำวันมีมากมาย ซึ่งคนเรานำข้อมูลเหล่านี้มาใช้ประโยชน์ เช่น การนำข้อมูลสภาพอากาศมาประมวลผล แล้วใช้ในการพยากรณ์อากาศ การนำข้อมูลประชากรมาวางแผนการพัฒษนาประเทศ เป็นต้น ข้อมูลมีประโยชน์ในด้านต่างๆ ดังนี้ 1. ช่วยในการตัดสินใจหรือแก้ไขปัญหา เพื่อให้ตัดสินใจหรือแก้ไขปัญหาได้ถูกต้อง เช่น - เมื่อเรารู้ข้อมูลว่าคะแนนสอบวิชาภาษาไทยของตนเองไม่ค่อยดี เราจึงควรขยันและตั้งใจเรียนให้มากขึ้น - เมื่อเรารู้ข้อมูลเกี่ยวกับโรคไข้หวัดใหญ่ 2009 เราจึงควรหาวิธีป้องกันตัวเอง เพื่อไม่ให้เป็นโรคนี้ได้ เป็นต้น
2. ช่วยพัฒนาตนเอง ทำให้เราเป็นคนฉลาด รอบรู้ สามารถวางแผนการทำงาน การเรียน และปฏิบัติงานตามหน้าที่
ที่ได้รับมอบหมายได้เป็นอย่างดียิ่ง
3. ช่วยพัฒนาชุมชนและสังคม เช่น ผู้ดูแลชุมชนมีข้อมูลว่ามีเด็กๆ ในชุมชนเพิ่มขึ้นจำนวนมาก
จึงสร้างสนามเด็กเล่น เพื่อให้เด็กๆ ได้ใช้ออกกำลังกาย เป็นต้น
บทที่ 2 แหล่งข้อมูลน่ารู้
แหล่งข้อมูล หมายถึง ที่มาของข้อมูล ซึ่งมีความแตกต่างกัน ตามประเภทของข้อมูลที่เราได้รับ
1. ประเภทของแหล่งข้อมูล แหล่งข้อมูลแบ่งออกเป็น 2 ประเภท ได้แก่ 1) แหล่งข้อมูลชั้นต้น เป็นแหล่งข้อมูลที่เราสอบถาม หรือสัมภาษณ์จากแหล่งข้อมูลโดยตรง หรือที่เราพบเห็นด้วยตนเอง แล้วจดบันทึกไว้ 2) แหล่งข้อมูลชั้นรอง เป็นแหล่งข้อมูลที่ได้จากการอ่าน การฟัง หรือการดูข้อมูลที่มีผู้อื่นรวบรวมหรือบันทึกไว้แล้ว 2. แหล่งข้อมูลใกล้ตัว ในชีวิตประจำวันของนักเรียนสามารถหาข้อมูลต่างๆ ได้จากแหล่งข้อมูลที่อยู่ใกล้ตัว ได้แก่ 1) แหล่งข้อมูลที่เป็นบุคคล 2) แหล่งข้อมูลที่ไม่ใช่บุคคล
การรวบรวมข้อมูล หมายถึง การหาข้อมูลที่ต้องการจากแหล่งข้อมูลต่างๆ มาเก็บรวมกันไว้
1. วิธีการรวบรวมข้อมูล
1) การสังเกต เป็นวิธีการรวบรวมข้อมูลโดยการดูข้อมูลที่สนใจอย่างละเอียด และจดจำรายละเอียดข้อมูลที่สังเกต เช่น
สังเกตว่า ดอกไม้ชนดนี้มีสีอะไร มีกลีบกี่กลีบ เป็นต้น
2) การสัมภาษณ์ เป็นการสอบถามพูดคุยระหว่างบุคคล 2 ฝ่าย โดยฝ่ายหนึ่งต้องการทราบเรื่องราวจากอีกฝ่ายหนึ่ง
แล้วจดบันทึกข้อมูลที่ได้ หรืออาจใช้วิธีบันทึกเสียงในขณะสัมภาษณ์ก็ได้
3) การสืบค้นข้อมูลจากแหล่งข้อมูลต่างๆ เป็นการค้นคว้าข้อมูลจากแหล่งข้อมูลชั้นรอง เช่น การอ่านหนังสือ
การฟังจากผู้รู้ การอ่านข้อมูลในอินเทอร์เน็ต เป็นต้น แล้วจดบันทึกข้อมูลที่ต้องการ
2. วิธีการจัดการข้อมูล เมื่อรวบรวมข้อมูลได้พอสมควรแล้ว ควรปฏิบัติ ดังนี้
1) ตรวจสอบความน่าเชื่อถือของข้อมูล โดยดูจากแหล่งข้อมูลที่ได้มา ว่ามีความน่าเชื่อถือมากน้อยเพียงใด เช่น
ข้อมูลเรื่องการสร้างอาคารเรียนหลังใหม่ คุณครูใหญ่ย่อมให้ข้อมูลที่น่าเชื่อถือกว่าแม่ค้าที่ขายของหน้าโรงเรียน เพราะคุณครูใหญ่ มีหน้าที่ดูแลเรื่องต่างๆ ภายในโรงเรียนจึงมีเอกสารหลักฐาน เพื่อใช้ยืนยันความถูกต้องของข้อมูล แต่แม่ค้าเล่าเรื่องราวต่างๆ จากความทรงจำจึงอาจทำให้จำข้อมูลคลาดเคลื่อนหรือบอกข้อมูลที่ผิดพลาดได้
นอกจากนี้ เรายังสามารถตรวจสอบความน่าเชื่อถือของข้อมูลจากหลักฐานที่เป็นตัวหนังสือได้ด้วย เช่น
หากเราถามข้อมูลเรื่องการสร้างอาคารเรียนหลังใหม่จากคุณครูใหญ่แล้ว เราควรขออนุญาตคุณครูใหญ่ดูหนังสือหรือเอกสาร ที่กล่าวถึงเรื่องนี้ จากนั้นตรวจสอบข้อมูลที่ได้ว่าตรงกันหรือไม่ หากข้อมูลตรงกัน แสดงว่าข้อมูลนั้นมีความน่าเชื่อถือ
2) จำแนกข้อมูลเป็นหมวดหมู่อย่างเหมาะสม ซึ่งอาจดูจากหัวข้อ หรือเนื้อหาของข้อมูล เช่น ข้อมูลเรื่องงานบ้าน
ข้อมูลเรื่องงานเกษตร ข้อมูลเรื่องงานประดิษฐ์ เป็นต้น
3) จดบันทึกข้อมูลที่ได้ และเก็บไว้ตามประเภท หือหมวดหมู่ของข้อมูลนั้นๆ เพื่อให้นำมาใช้ได้สะดวก
จากนั้นจัดเก็บข้อมูลไว้ในแฟ้มและเก็บไว้ในที่เหมาะสม เช่น เก็บบนชั้นวางของ หรือเก็บในตู้ในเรียบร้อย เป็นต้น
ตัวอย่างการรวบรวมข้อมูล
คุณครูมอบหมายให้ชาลีและมีนาจับคู่เพื่อสืบค้นข้อมูลที่น่าสนใจ ทั้งคู่สนใจข้อมูลเรื่อง แมวไทย
|
วันอังคารที่ 6 มิถุนายน พ.ศ. 2560
ชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 หน่วยที่ 1 ข้อมูลน่ารู้
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น