1. ความหมายของเทคโนโลยีสารสนเทศ
หมายถึง การนำเอาความรู้ทางวิทยาศาสตร์ ธรรมชาติ สิ่งแวดล้อม มาประยุกต์เข้าด้วยกัน เพื่อให้ได้สิ่งต่างๆ ที่เกิดประโยชน์ มีมูลค่าและเพิ่มความสะดวกสบายในชีวิตประจำวัน เช่น
เป็นประโยชน์ต่อผู้ใช้หมายถึง ข้อมูลที่ผ่านการประมวลผล โดยการคำนวณ เปรียบเทียบ และสรุปผล เพื่อให้ได้ความรู้ใหม่ที่มีความต้องการและ
หมายถึง การนำเอาข้อมูลที่ประมวลผลแกล้ว มาจัดการด้วยวิธีการต่างๆ เพื่อให้ได้สิ่งที่มีประโยชน์ และช่วยเพิ่มความสะดวกสบายในชีวิตประจำวัน

ในอินเทอร์เน็ตมีข้อมูลมากมาย
คำถามชวนคิด : เทคโนโลยีสารสนเทศ ก็คือ คอมพิวเตอร์เพียงอย่างเดียวหรือเปล่านะ
2. ประโยชน์ของเทคโนโลยีสารสนเทศ
เทคโนโลยีสารสนเทศ มีประโยชน์ต่อการดำเนินชีวิตของมนุษย์มากมาย ซึ่งสามารถแบ่งเป็นด้านต่างๆ ได้ดังนี้
1. ด้านการดำเนินชีวิตประจำวัน
ช่วยเพิ่มความสะดวก รวดเร็วในการรับข้อมูล ข่าวสาร และการส่งข้อมูลผ่านเครือข่ายคอมพิวเตอร์ เรียกว่า อีเมล์ (E-mail) ช่วยเพิ่มความสะดวกสบาย และความรวดเร็วในการเดินทาง เช่น การสังเกตข้อมูลจากแผนที่อัจฉริยะที่ติดตามถนนเส้นต่างๆ ในเขต จังหวัดเชียงใหม่ เพื่อหลีกเลี่ยงการขับรถไปยังเส้นทางที่มีการจราจรติดขัด หรือ การเดินทางโดยรถไฟฟ้า BTS หรือ MRT เป็นต้น
2. ด้านพัฒนาการศึกษา
3. ด้านการเกษตรและสิ่งแวดล้อม
เทคโนโลยีสารสนเทศเข้ามามีบทบาทในเรื่องของการดูแล แก้ไข และป้องกันปัญหาสิ่งแวดล้อมและการเกษตร เช่น การทำฝนเทียมเพื่อลดปัญหาการขาดแคลนน้ำเพื่อการเกษตร การใช้ดาวเทียมถ่ายภาพป่าไม้เพื่อตรวจการลักลอบทำลายป่า และการพยากรณ์อากาศ เป็นต้น
4. ด้านการบริหารงานภายในองค์กร
5. ด้านการค้า และการพาณิชย์
ประโยชน์ในด้านนี้ที่มองเห็นได้ชัดเจนที่สุด คือ การซื้อขายสินค้า และบริการผ่านเครือข่ายอินเทอร์เน็ต หรือเรียกสั้นๆ ว่า การพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ (e-commerce : Electronic Commerce)
6. ด้านอุตสาหกรรม
เช่นการใช้เครื่องจักรในการผลิตสินค้าอุสาหกรรม เพื่อเพิ่มคุณภาพและประสิทธิภาพในการทำงานให้ดียิ่งขึ้น
คำถามนี้มีคำตอบ : เทคโนโลยีสารสนเทศ ไม่ได้หมายถึงคอมพิวเตอร์เพียงอย่างเดียว แต่ยังรวมถึง เทคโนโลยีการสื่อสารโทรคอมนาคม และเทคโนโลยีอื่นที่เกี่ยวข้องกับเสียง ข้อมูล หรือภาพด้วยนะครับ
3. ผลกระทบจากเทคโนโลยีสารสนเทศ
เทคโนโลยีสารสนเทศ สร้างความสะดวกสบายให้กับมนุษย์ แต่ในขณะเดียวกัน เทคโนโลยีก็มีผลกระทบต่อมนุษย์ได้เช่นกัน ดังนี้
1. มนุษยสัมพันธ์ระหว่างบุคคลลดน้อยลง
การทำงานกับคอมพิวเตอร์ เทคโนโลยี หรือแม้กระทั่งการเล่นเกม เป็นลักษณะการติดต่อสื่อสารที่ไม่จำเป็นต้องมาพบเจอกัน เป็นการใช้งานอยู่เพียงลำพัง ส่งผลให้ความสัมพันธ์กับผู้อื่นลดน้อยลงไปด้วย

2. เกิดการเผยแพร่ข้อมูลข่าวสารที่ไม่เหมาะสมได้อย่างรวดเร็ว
ปัจจุบันการติดต่อสื่อสารผ่านเครือข่ายอินเทอร์เน็ตได้รับความนิยมอย่างแพร่หลาย หากเราขาดจริยธรรมในการใช้คอมพิวเตอร์ เช่น ส่งจดหมาย ข่าวสารที่เป็นเท็จหรือรูปภาพที่ไม่เหมาะสมของบุคคลอื่นไปบนเครือข่ายอินเทอร์เน็ตที่มีผู้ใช้งานเป็นจำนวนมาก ก็อาจทำให้ผู้อื่นได้รับความเสียหายจากการกระทำดังกล่าว ดังนั้น จริยธรรมของการใช้งานบนเครือข่ายอินเทอร์เน็ตจึงเป็นเรื่องสำคัญที่ต้องได้รับการปลูกฝังเป็นอย่างยิ่ง

3. ทำให้เกิดอาชญากรรมในรูปแบบต่างๆ
อาชญากรรมที่เกิดจากการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศมีอยู่หลากหลายรูปแบบ เช่น การลักลอบแก้ไขตัวเลขในบัญชีธนาคารด้วยคอมาพิวเตอร์ การแก้ไขข้อมูลคะแนนสอบของนักเรียน หรือผู้ร้ายใช้เทคโนโลยีในการวางแผนปล้นธนาคาร เป็นต้น

4. เกิดความเสี่ยงในด้านการทำธุรกิจ
ธุรกิจในปัจจุบันมีการพึ่งพาเทคโนโลยีสารสนเทศมากขึ้น มีการเก็บข้อมูลข่าวสารของธุรกิจทั้งหมดไว้ในฐานข้อมูลที่อยู่ในคอมพิวเตอร์ เช่น ข้อมูลลูกหนี้ ข้อมูลสินค้า และบริการต่างๆ ดังนั้น หากมีอุบัติเหตุเกิดขึ้น เช่น ไฟไหม้ น้ำท่วม หรือสาเหตุอื่นๆ ที่ทำให้ข้อมูลทั้งหมดสูญหายไป ก็จะส่งผลกระทบอย่างมากต่อธุรกิจนั้นๆ
กฎหมายอาชญากรรมทางคอมพิวเตอร์คืออะไร
ปัจจุบันพัฒนาการทางเทคโนโลยีสารสนเทศ ได้เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วตามยุคสมัย ซึ่งมีการนำมาประยุกต์ใช้ให้เกิดประโยชน์มากมายทั่วโลก แต่ถ้าหากนำไปใช้ในทางที่ไม่ถูกต้อง ก็อาจก่อให้เกิดความเสียหายทางเศรษฐกิจอย่างรุนแรง ซึ่งอาจประเมินค่าไม่ได้ หรือส่งผลกระทบที่ร้ายแรงแก่สิ่งมีชีวิตบนโลก ซึ่งรูปแบบของอาชญากรรมที่เกิดจากการใช้งานคอมพิวเตอร์ คือ การหยุดการทำงาน การลักลอบขโมยข้อมูล การแก้ไขข้อมูล การสร้างข้อมูลปลอม การปล่อยไวรัสเข้าสู่ระบบ รวมไปถึง การสร้างความเสียหายแก่ผู้อื่น เป็นต้น

ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น