วันศุกร์ที่ 9 มิถุนายน พ.ศ. 2560

ชั้นประถมศึกษาปีที่ 2‎ ‎ หน่วยที่ 1 ข้อมูลน่าเรียน

ข้อมูล  คือ ปริมาณรายละเอียดของเหตุการณ์หรือความจริงที่เกิดขึ้นในชีวิตประจำวันรอบๆ ตัวเรา  เช่นข้อมูลบุคคล  ข้อมูลสินค้า  ข้อมูลคนไข้  ในชีวิตประจำวัน เราต้องเกี่ยวข้องกับข้อมูลตลอดเวลา  ข้อมูลมีหลายชนิดทั้งที่เป็นตัวเลข เป็นข้อความ เป็นเสียงหรือเป็นภาพ ซึ่งเราสามารถรวบรวมข้อมูลได้จากแหล่งข้อมูลต่างๆ
           ข้อมูลมีหลายประเภท  ดังนี้
             1.  ข้อมูลที่เป็นตัวอักษร  คือข้อมูลที่ประกอบด้วยตัวอักษรและตัวเลขที่ใช้ในการคำนวณ  ทั้งภาษาไทยและภาษาต่างประเทศ  เช่น  บัตรประชาชน  ทะเบียนบ้าน 
ทะเบียนรถยนต์  ชื่อ นามสกุล  หมายเลขโทรศัพท์  บ้านเลขที่  เป็นต้น
             2.  ข้อมูลที่เป็นตัวเลข  คือข้อมูลที่ประกอบไปด้วยตัวเลข   0   ถึง   9  ใช้ในการคำนวณได้  เช่น  คะแนน  จำนวนเงิน  ราคาสินค้า  เป็นต้น
             3.  ข้อมูลภาพ คือข้อมูลที่เป็นภาพอาจเป็นภาพนิ่ง  เช่นภาพถ่าย  ภาพวาด 
ภาพเคลื่อนไหว  เช่นภาพจากวีดิทัศน์  เป็นต้น  อาจเก็บไว้ในคอมพิวเตอร์หรือแผ่นซีดี
ในแผ่นกระดาษ  เป็นต้น
             4.  ข้อมูลเสียง  คือข้อมูลที่รับรู้ด้วยการได้ยิน   จัดเก็บข้อมูลในสื่อคอมพิวเตอร์
สามารถแสดงผลข้อมูลเสียงด้วยเครื่องขยายและลำโพง
               ข้อมูลที่ใช้ในชีวิตประจำวันมีมากมาย  การใช้ประโยชน์จากข้อมูล เช่น  ข้อมูลของภูมิอากาศ  เมื่อนำมาประมวลผลแล้วจะใช้เป็นประโยชน์ด้านการพยากรณ์อากาศ
        ข้อมูลด้านประชากรสามารถนำมาวางแผนในการพัฒนาประเทศ   ข้อมูลด้านการเงินนำมาใช้ในการพัฒนาเศรษฐกิจ  ข้อมูลด้านวิทยาศาสตร์เราใช้ในการวิจัย  เป็นต้น



แหล่งข้อมูลโดยทั่วไป เราสามารถแบ่งออกเป็น ประเภทใหญ่ๆ คือ
   1.  แหล่งปฐมภูมิ  หรือแหล่งข้อมูลเบื้องต้น เป็นแหล่งข้อมูลที่ได้มาจากการสอบถามผู้รู้ข้อมูลที่เราต้องการจะรู้โดยตรง
   2.  แหล่งทุติยภูมิ  หรือแหล่งข้อมูลขั้นที่ 2  เป็นแหล่งข้อมูลที่ผู้อื่นเก็บรวบรวมไว้ก่อนแล้ว เช่น ข้อมูลจากหน่วยต่างๆ ข้อมูลจากผลการวิจัย เป็นต้น
 วิธีการบันทึกข้อมูล 
    เครื่องมือที่สำคัญที่ช่วยในการบันทึกและรวบรวมข้อมูล คือ การบันทึก อาจจะใช้วิธีจดด้วยการเขียนทีจะได้ในรูปแบบตัวอักษร การบันทึกในแถบบันทึกเสียงจะเป็นการบันทึกด้วยเสียง   หรือบันทึก วิดีโอ จะเป็นการบันทึกด้วยเสียงและภาพ เป็นต้น



การเก็บข้อมูล
                   ในการเก็บรวบรวมข้อมูลต่างๆ นั้น กระทำได้หลายวิธี ขึ้นอยู่กับลักษณะของแหล่งข้อมูลเราสามารถแบ่งวิธีการรวบรวมข้อมูลได้ ดังนี้
          1.  การเก็บข้อมูลโดยการสอบถาม วิธีนี้ผู้รวบรวมอาจใช้วิธีสอบถามหรือสัมภาษณ์ จากผู้รู้ที่เป็นแหล่งข้อมูลที่เราต้องการ หรือจะสอบถามโดยการใช้แบบสอบถามก็ได้
          2.  การเก็บรวบรวมข้อมูลจากเอกสาร วิธีนี้ผู้รวบรวมสามารถหาเอกสารที่เป็นแหล่งข้อมูลได้มากมาย เช่น หนังสือ วารสาร สิ่งพิมพ์ต่างๆ
          3.  การเก็บข้อมูลโดยการสังเกตการณ์ วิธีนี้ผู้รวบรวมข้อมูลจะต้องเข้าไปเฝ้าสังเกตการณ์ต่างๆ เช่น นักข่าวไปเฝ้าการชุมนุมประท้วง
คุณภาพของข้อมูล
          การนำข้อมูลไปใช้ประโยชน์นั้น ข้อมูลจะต้องมีความถูกต้องและเชื่อถือได้ ดังนั้นข้อมูลที่ดีมีคุณภาพ ควรมีคุณสมบัติ ดังนี้
          1) มีความถูกต้อง ตรงกับข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นจริง
          2) สามารถตรวจสอบได้ มีแหล่งข้อมูลที่อ้างอิงได้
          3) มีความเป็นปัจจุบันทันต่อเรื่องราว และเหตุการณ์ที่เกี่ยวข้อง
          4) มีความครบถ้วนสมบูรณ์ และมีความชัดเจน
          คุณภาพของข้อมูล ขึ้นอยู่กับผู้ที่รวบรวมข้อมูลด้วย หากผู้เก็บรวบรวมข้อมูลขาดความซื่อสัตย์ทำการเปลี่ยนแปลงข้อมูลที่รวบรวมมา ก็จะทำให้ข้อมูลนั้นไม่ตรงกับความเป็นจริง ส่งผลถึงการนำไปใช้งาน

    การรวบรวมข้อมูล
          การรวบรวมข้อมูลควรเริ่มด้วยการพิจารณาจากแหล่งข้อมูลที่หาได้ง่ายรวดเร็วและเสียค่าใช้จ่ายน้อยก่อน  ถ้าไม่เพียงพอจึงพิจารณาจากแหล่งข้อมูลอื่นต่อไป
          การรวบรวมข้อมูลส่วนใหญ่  มักศึกษาจากหลักฐาน เอกสาร  รายงาน และสิ่งพิมพ์ต่าง ๆ  เมื่อศึกษาแล้วต้องนำข้อมูลเหล่านั้นมาวิเคราะห์และสรุป  เพื่อเตรียมให้พร้อมก่อนนำไปใช้ประโยชน์

          การรวบรวมข้อมูลทำได้หลายวิธี  ดังนี้

1.      การสัมภาษณ์บุคคลที่เกี่ยวข้อง  เช่น  สอบถามจากพนักงานขาย ว่า  สินค้าประเภทไหน ขายได้มากน้อยเพียงใด  เพื่อนำไปใช้ในการวางแผนการผลิตและการตลาด
2.      การบันทึกข้อมูลจากบันทึกหรือเอกสารของหน่วยงานต่าง ๆ เช่น
2  หน่วยงานของรัฐบาล  กระทรวง  กรม  รัฐวิสาหกิจ  มีข้อมูลเกี่ยวกับ
ระเบียบข้อบังคับ  ข่าวสาร  สถิติ   ที่เราสามารถนำมาใช้ประโยชน์ได้
อย่างดี
2 สมาคมการค้า  เช่น  สมาคมหอการค้าไทย  สมาคมอุตสาหกรรมไทย สมาคมผู้ค้าภูมิภาค  จะมีข้อมูลเกี่ยวกับสถิติ  ข่าวสาร  ราคาของสินค้าซึ่งเป็นแหล่งข่าวที่ดีสำหรับสมาชิก
3.      การอ่านและศึกษาค้นคว้า  โดยเข้าห้องสมุดของหน่วยงานต่าง  ๆ  เพื่อค้นหาข้อมูลจากสื่อสิ่งพิมพ์ต่าง  ๆ  เช่น  ตำรา  เอกสาร  หนังสือพิมพ์  วารสาร หรือเอกสารการวิจัยต่าง ๆ  เป็นต้น
4.      การค้นหาข้อมูลจากดินเทอร์เน็ต  ซึ่งจะมีข้อมูล  ข่าวสารในด้านต่าง ๆ ให้ค้นคว้าได้อย่างรวดเร็ว  และเป็นข้อมูลที่ทันสมัยที่สุด
5.      การเข้าร่วมในเหตุการณ์ต่าง ๆ เช่น  การเข้าร่วมประชาพิจารณ์
6.      การฟังวิทยุและดูโทรทัศน์  เช่น  ข่าวสาร  สารคดี  เป็นต้น

การประมวลผลข้อมูลให้เป็นสารสนเทศ

          ข้อมูลที่อยู่รอบ ๆ  ตัวเรามีจำนวนมาก  ในการใช้งานจึงต้องมีการประมวลผลเพื่อให้เกิดประโยชน์ตั้งแต่การรวบรวมข้อมูล  การแยกแยะ  การตรวจสอบความถูกต้องการคำนวณ  การจัดลำดับ  การรายงานผล  รวมถึงการสื่อสารข้อมูลหรือการแจกจ่ายข้อมูล
          สารสนเทศ  หมายถึง  ข้อมูลต่าง  ๆ  ที่ได้ผ่านการเปลี่ยนแปลง  หรือมีการประมวล หรือวิเคราะห์ผลสรุปด้วยวิธีการต่าง ๆ ให้อยู่ในรูปแบบที่มีความสัมพันธ์กันมีความหมาย  และมีวัตถุประสงค์ในการใช้งานอย่างใดอย่างหนึ่ง  ซึ่งสามารถเขียนเป็นแผนภูมิได้ ดังนี้














ข้อมูล


ประมวลผลข้อมูล


สารสนเทศ



          คุณสมบัติของข้อมูลสารสนเทศที่ดี

1.      มีความสมบูรณ์ถูกต้อง  และเชื่อถือได้
2.      มีความเป็นปัจจุบันและทันต่อเหตุการณ์ต่าง ๆ ที่เกิดขึ้น
3.      มีความเกี่ยวข้องในเรื่องราวที่ต้องตัดสินใจ
4.      มีความสะดวกในการค้นหา
5.      มีความชัดเจน  ไม่ซ้ำซ้อน
ประโยชน์ของข้อมูลสารสนเทศ
1.      ใช้ในการวางแผนการบริหารงาน
2.      ใช้ประกอบการตัดสินใจ
3.      ใช้ในการควบคุมสถานการณ์ หรือเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
4.      เพื่อให้การบริหารงานมีระบบ  ลดความซ้ำซ้อน

ระบบสารสนเทศ  หมายถึง  กระบวนการจัดเก็บรวบรวมข้อมูลเพื่อกระทำให้เป็นสารสนเทศ  การจัดเก็บและการนำเสนอสารสนเทศให้เป็นปัจจุบันทันตอเหตุการณ์
การใช้คอมพิวเตอร์ในการประมวลผล จากข้อมูลเป็นสารสนเทศ
การใช้คอมพิวเตอร์ในการประมวลผล จากข้อมูลเป็นสารสนเทศ จะแบ่งออกเป็น วิธี
1.      การประมวลผลแบบตรง
2.      การประมวลผลแบบกลุ่ม

การประมวลผลแบบตรง
การประมวลผลแบบตรง หมายถึง การประมวลผลโดยทันที่ที่มีการส่งข้อมูลเข้าไป เช่น ตู้เอทีเอ็ม การสั่งงานของเครื่องใช้ไฟฟ้า ได้แก่การเปิดโทรทัศน์ การกดปุ่มพัดลม โดนคอมพิวเตอร์จะทำงานทันที่ที่มีการสั่งงาน
  การประมวลผลแบบกลุ่ม
การประมวลผลแบบกลุ่ม จะเป็นการประมวลผลเป็นครั้งๆ ในเรื่องที่สนใจ เช่น ต้องการทราบแนวโน้มจำนวนเงินที่ใช้จ่ายของวัยรุ่นยุคนี้ จึงจัดทำแบบสำรวจ จากนั้นจึงนำข้อมูลที่ได้มาประมวลผลด้วยคอมพิวเตอร์ และออกมาเป็นผลของการประมวลผล เช่น โพล (Poll)
          อุปกรณ์ที่ใช้จัดเก็บข้อมูลในคอมพิวเตอร์
          1.   แผ่นดิสก์                               2.   ฮาร์ทดิสก์                    3. แผ่นซีดี












ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น