วันศุกร์ที่ 7 กรกฎาคม พ.ศ. 2560

ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 หน่วยที่ 3 การจัดการข้อมูลและสารสนเทศ

3.1การจัดการข้อมูลและสารสนเทศ

การจัดการข้อมูลและสารสนเทศ

1. การเก็บรวบรวมข้อมูล  เป็นการรวบรวมจากการสังเกตุ สอบถาม หรือจากการสืบค้นจากเว็บไซต์ในอินเทอร์เน็ต แล้วนำข้อมูลเข้าสู่เครื่องคอมพิวเตอร์
ผลการค้นหารูปภาพสำหรับ การสืบค้นข้อมูล
https://sites.google.com/site/nessupitchaya1/_/rsrc/1387224335689/wi-thya-str-na-ru/01.jpg?height=193&width=578



2. การพิจารณาข้อมูล  เป็นการพิจารณาตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูลที่เก็บรวบรวมมา หากตรวจสอบ อาจตรวจสอบด้วยสายตา หรือใช้คอมพิวเตอร์ในการตรวจสอบ โดยข้อมูลที่เลือกใช้จะต้องมีความน่าเชื่อถือ หรือหากพบข้อผิดพลาดจะต้องรีบจัดการแก้ไข
ผลการค้นหารูปภาพสำหรับ การตรวจสอบข้อมูล
ภาพจาก : http://www.jobcity.co.th/uploads/article/



3. การรวบรวมแฟ้มข้อมูล เมื่อทำการเก็บรวบรวมและตรวจสอบข้อมูลแล้ว ต้องมีการแบ่งแยกข้อมูลทั้งหมดออกเป็นกลุ่ม เป็นเรื่อง เพื่อให้การดำเนินการในขั้นตอนต่อไปสะดวกและรวดเร็วขึ้น
รูปภาพที่เกี่ยวข้อง
ภาพจาก : http://3.bp.blogspot.com



4. การจัดเรียงข้อมูล
 เป็นการเรียงลำดับข้อมูล อาจเรียงตามตัวเลขหรือตัวอักษรเพื่อให้สะดวกต่อการค้นหา และอ้างอิงในภายหลัง 
ผลการค้นหารูปภาพสำหรับ การเรียงลำดับข้อมูล
http://www.wisethailand.com/excel_blog/ExcelAll/sort1.jpg


5. การคำนวณ
 เป็นการนำข้อมูลที่เป็นตัวเลขมาดำเนินการทางคณิตศาสตร์เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ ซึ่งสามารถนำมาอ้างอิงได้ ผลการค้นหารูปภาพสำหรับ การคำนวณ
https://kingmaththewalk.files.wordpress.com/2015/06/1427778030-math_symbol_clipart.jpg




6. การทำรายงาน
 เป็นการนำข้อมูลจากการเก็บรวบรวม จัดเรียง และคำนวณ มาสรุปเป็นรายงานรูปแบบต่างๆ เช่นรายงานเขียนด้วยมือ หรือพิมพ์ด้วยคอมพิวเตอร์ เป็นต้น

ผลการค้นหารูปภาพสำหรับ รายงานเชิงวิชาการ
https://pbs.twimg.com/media/BVP1UQVCcAEkw6A.jpg


7. การจัดเก็บ
 เป็นการนำข้อมูลที่สรุปเป็นรายงานแล้วมาจัดเก็บในรูปแบบต่างๆ เช่นเก็บในแฟ้มเอกสาร เก็บในสื่ออิเล็กทรอนิกส์ประเภทสื่อบันทึก หน่วยความจำแบบ Flash แผ่น CD/DVD เป็นต้น 

ผลการค้นหารูปภาพสำหรับ การจัดเก็บข้อมูล
http://www.itubb.net/wp-content/uploads/2015/02/storage.png



8. การทำสำเนา
 เป็นการนำข้อมูลที่จัดเก็บไว้มาคัดลอก (Copy) หรือทำสำเนาขึ้นมาใหม่ ด้วยการใช้เครื่องถ่ายเอกสารหรือเครื่องคอมพิวเตอร์ทำสำเนาข้อมูลลงในสื่อบันทึกข้อมูลต่างๆ เช่น แผ่นบันทึก CD/DVD หน่วยความจำแบบ Flash เป็นต้น 

ผลการค้นหารูปภาพสำหรับ การทำสำเนาผลการค้นหารูปภาพสำหรับ การทำสำเนา
http://www.samsung.com/th/consumer/flagship/SL-M3870FDXSS/images/img_M4070_01.jpg



9. การแจกจ่ายและสื่อสารข้อมูล
 เป็นการนำข้อมูลที่สรุปเป็นรายงานหรือทำสำเนา จัดส่งไปให้ผู้อื่นใช้งาน ซึ่งทำได้หลายวิธีเช่น แจกจ่ายเป็นแผ่นพับ ใบปลิว แผ่นบันทึก แผ่น CD/DVD หน่วยความจำแบบ Flash หรือส่งทางอีเมล์ (E-Mail) เป็นต้น 

ผลการค้นหารูปภาพสำหรับ การแจกจ่าย สื่อสารข้อมูล
http://tknattakun.exteen.com/images/business1.jpg


10. การปรับปรุงข้อมูล
 เป็นการปรับปรุงแก้ไข หรือเพิ่มเติมข้อมูลให้ทันสมัยทันต่อเหตุการณ์ หรือทำให้ข้อมูลมีความถูกต้องชัดเจนมากยิ่งขึ้น

ผลการค้นหารูปภาพสำหรับ การปรับปรุงข้อมูล
http://asiaroo.pairserver.com/webconnection.co.th_OLD310713/images/service-webservices01.jpg


ให้นักเรียนศึกษาเพิ่มเติมจากวีดีโอต่อไปนี้



3.2การเก็บรักษาข้อมูล

การเก็บรักษาข้อมูล

          การเก็บรักษาข้อมูล หมายถึง การนำข้อมูลมาบันทึกเก็บไว้ในสื่อหรืออุปกรณ์บันทึกข้อมูลต่าง เพื่อเก็บรักษา หรือเพื่อให้ง่ายต่อการใช้งาน อุปกรณ์บันทึกข้อมูล สามารถแยกประเภทได้ดังนี้
1. สื่อเก็บข้อมูลแบบจานแม่เหล็ก (Magnetic Disk Device)
2. สื่อเก็บข้อมูลแสง (Optical Storage Device)
3. อุปกรณ์หน่วยความจำแบบแฟรช (Flash memory device)


สื่อหรืออุปกรณ์บันทึกข้อมูล



1. สื่อเก็บข้อมูลแบบจานแม่เหล็ก (Magnetic Disk Device) 
          
เป็นอุปกรณ์บันทึกข้อมูลประเภทที่ใช้งานเป็นลักษณะของจานบันทึก ( disk )ซึ่งมีหลายประเภท ดังนี้

1.1 ฟล็อปปี้ดิสก์ (Floppy Disks) สื่อเก็บบันทึกข้อมูลที่ได้รับความนิยมและใช้งานอย่างแพร่หลายในอดีต (ปัจจุบันเลิกใช้แล้ว)  นิยมเรียกอีกชื่อหนึ่งว่า ดิสเก็ตต์ (Diskette) หรือแผ่นดิสก์ การเก็บข้อมูลจะมีจานบันทึก ซึ่งเป็นวัสดุอ่อนจำพวกพลาสติกที่เคลือบสารแม่เหล็กอยู่ด้านใน และห่อหุ้มด้วยกรอบพลาสติกแข็งอีกชั้นหนึ่ง แผ่นดิสก์ในอดีตจะมีขนาดจานบันทึกที่ใหญ่มากถึง 5.25 นิ้ว และพัฒนามาเป็นขนาด 3.5 นิ้วแทน มีความจุเพียง 1.44 MB
ผลการค้นหารูปภาพสำหรับ Floppy Disks
ภาพจาก https://upload.wikimedia.org/wikipedia/commons/thumb/a/aa/Floppy_disk_2009_G1.jpg/450px-Floppy_disk_2009_G1.jpg



1.2 ฮาร์ดดิสก์ (Hard Disks) เป็นอุปกรณ์เก็บบันทึกข้อมูลที่มีโครงสร้างคล้ายกับดิสเก็ตต์ แต่จุข้อมูลมากกว่าและมีความเร็วในการเข้าถึงข้อมูลสูงกว่า จะถูกติดตั้งอยู่ภายในเครื่องคอมพิวเตอร์ เป็นส่วนสำคัญสำหรับเก็บตัวโปรแกรมระบบปฏิบัติการ รวมถึงโปรแกรมประยุกต์อื่น ๆ ฮาร์ดดิสก์ผลิตมาจากวัสดุแบบแข็งจำนวนหลายแผ่นวางเรียงต่อกันเป็นชั้น จานแม่เหล็กแต่ละจาน เรียกว่า แพลตเตอร์ (Platter) ซึ่งอาจจะมีจำนวนต่างกันได้ในฮาร์ดดิสก์แต่ละรุ่น 
ปัจจุบันมีความจุสูงสุด 4 TB และมีแนวโน้มจะเพิ่มขึ้นในอนาคต
ภาพจาก https://sites.google.com/site/hardwaersahrabsux/_/rsrc/1377781764063/xupkrn-cad-keb-khxmul-data-storage-device/ddddd.jpg


1.3 Solid State Drive : SSD   คืออุปกรณ์อิเล็กทรนิกส์ที่ทำหน้าที่เหมือนกับฮาร์ดดิกส์เพียงแต่หลักการทำงานนั้นแตกต่างจากฮาร์ดดิกส์รุ่นเก่า ซึ่งฮาร์ดดิกส์ SSD ถือได้ว่าเป็นฮาร์ดดิกส์รุ่นใหม่ที่กำลังมาแรงที่สุด เพราะมีความเร็วในการอ่านข้อมูลมากกว่า ฮาร์ดดิสก์ (Hard Disk) หลายเท่าตัว มีความทนทานกว่า แต่จะมีความจุน้อยกว่าฮาร์ดดิสก์ธรรมดา และราคาสูงตามไปด้วย โดยเราสามารถแบ่งฮาร์ดดิกส์ SSD ได้ 2 แบบด้วยกันคือ
          1. NOR Flash จะมีการเรียงหน่วยความจำแบบขนานเพื่อให้เพื่อให้เข้าถึงข้อมูลได้อย่างอิสระและรวดเร็ว เสียอย่างเดียวมีความจุต่ำและราคาแพงมาก
          2. NAND Flash สามารถเข้าถึงข้อมูลแบบที่ละบล็อค แต่มีความจุสูงกว่าแบบแรก ซึ่งแบบนี้จะมีโครงสร้างและลักษณะการทำงานเหมือนกับ Flash Driver ที่ใช้อยู่ในปัจจุบันนั้นเองโดยสามารถแบ่งออกได้อีก 2 แบบด้วยกัน คือ Single Level Cell(SLC) และ Multi-Level Cell (MLC)

ที่มา : http://www.xn--12cg1cxchd0a2gzc1c5d5a.net/ssd/
ผลการค้นหารูปภาพสำหรับ SSD
ภาพจาก http://img.tarad.com/shop/d/dunk/img-lib/spd_2012042882753_b.jpg



1.4 External Hard Disk คือ อุปกรณ์เก็บข้อมูลคอมพิวเตอร์ภายนอกชนิดหนึ่งที่สามารถพกพาหรือนำติดตัวไปยังสถานที่ต่างๆ เป็น ฮาร์ดดิสก์ (Hard Disk) แบบเดียวกับที่อยู่ในเครื่องคอมพิวเตอร์ แต่ต่างกันตรงที่ External Hard Disk นี้ใช้เชื่อมต่อภายนอกเครื่องคอมพิวเตอร์ โดยเชื่อมต่อผ่านพอร์ต ยูเอชบี (USB) เหมือนหน่วยความจำแบบแฟรช (Flash memory device) 
ผลการค้นหารูปภาพสำหรับ External Hard Disk
ภาพจาก http://mmfashion.org/image//Computer/USB-Hard-Drive.jpg

2. สื่อเก็บข้อมูลแสง (Optical Storage Device)

          เป็นสื่อเก็บข้อมูลสำรองที่เคยได้รับความนิยม แต่ปัจจุบันไม่เป็นที่นิยมเท่าหน่วยความจำแบบแฟรช 
(Flash memory device) ซึ่งใช้หลักการทำงานของแสงเข้ามาช่วย การจัดเก็บข้อมูลจะคล้ายกับแผ่นจานแม่เหล็ก แต่ต่างกันที่การแบ่งวงของแทรคจะแบ่งเป็นลักษณะคล้ายรูปก้นหอยและเริ่มเก็บบันทึกข้อมูลจากส่วนด้านในออกมาด้านนอก และแบ่งส่วนย่อยของแทรคออกเป็นเซกเตอร์เช่นเดียวกันกับแผ่นจานแม่เหล็ก

1. CD (Compact Disc) เป็นสื่อเก็บข้อมูลด้วยแสงแบบแรกที่เคยได้รับความนิยมอย่างแพร่หลาย 
สามารถจุข้อมูลได้สูงสุด 650-750 MB ซึ่งแยกออกได้ดังนี้

          CD-ROM (Compact Disc Read Only Memory)  ผู้ใช้สามารถอ่านข้อมูลได้อย่างเดียวแต่ไม่สามารถเขียนหรือบันทึกข้อมูลซ้ำได้  โดยมากแล้วจะเป็นแผ่นที่ปั๊มมาจากโรงงานหรือบริษัทผู้ผลิตมาแล้ว เช่น CD เพลง CD ภาพยนตร์
รูปภาพที่เกี่ยวข้อง
ภาพจาก https://encrypted-tbn3.gstatic.com/images?q=tbn:ANd9GcSY3a3EwJxt0YyWoLaywjNSu2UHkRhXv8OYL1FC0xsog3-IrHCX

          CD-R (Compact Disc Recordable) พบเห็นได้ตามร้านจำหน่ายอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ทั่วไป  สามารถใช้ไดรฟ์เขียนแผ่น (CD Write) บันทึกข้อมูลได้และหากเขียนข้อมูลลงไปแล้วยังไม่เต็มแผ่นก็สามารถเขียนเพิ่มเติมได้ แต่ไม่สามารถลบข้อมูลที่เขียนไว้แล้วได้ เนื่องจากเนื้อที่บนแผ่นแต่ละจุดจะเขียนข้อมูลได้ครั้งเดียว เขียนแล้วเขียนเลยจะลบทิ้งอีกไม่ได้ เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการบันทึกไฟล์ข้อมูลเพื่อเก็บรักษาทั่วไป เช่น ภาพถ่ายจากกล้องดิจิตอล เพลง mp3 หรือไฟล์งานข้อมูลซึ่งในเครื่องคอมพิวเตอร์ส่วนตัว
ผลการค้นหารูปภาพสำหรับ CD
ภาพจาก https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEj7PQ6Wrhpt6y-ENW_8j5BuMEemL_nAUio7iuYfn-Lmh8h3W7mlw2le1_RwYjaeVmSUCOSFMZODamAws12S7qjsU0qkHPebwON5Qbb88eDgyo1sPRhkAMfylYtAUZE3GcItBqhow3eqqGA/s200/412531.jpg

          CD-RW (Compact Disc Rewritable) แผ่นชนิดนี้มีลักษณะหน้าตาเหมือนกับแผ่น CD-R ทุกประการแต่มีข้อดีกว่าคือ นอกจากเขียนบันทึกข้อมูลได้หลายครั้งแล้ว ยังสามารถลบข้อมูลและเขียนซ้ำใหม่ได้เรื่อย ๆ เหมือนกับการบันทึกและเขียนซ้ำของดิสเก็ตต์ อย่างไรก็ตามแผ่น CD-RW ขณะนี้ยังมีราคาสูงกว่า CD-R อยู่พอสมควร จึงเหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการบันทึกข้อมูลที่มีการเปลี่ยนแปลงบ่อยและเก็บข้อมูลไว้ในระยะเวลาอันสั้น ไม่ถาวร ซึ่งจะช่วยทำให้ประหยัดค่าใช้จ่ายไปได้มาก เพราะสามารถลบทิ้งแล้วเขียนใหม่อีกได้ถึงกว่าพันครั้ง
ผลการค้นหารูปภาพสำหรับ CD
ภาพจาก https://cdn4.iconfinder.com/data/icons/Antares_Complete_Pack/512/Devices/CD-RW.png


2. DVD (Digital Versatile Disc/Digital Video Disc) ผลิตมาเพื่อตอบสนองกับงานเก็บข้อมูลความจุสูง เช่น เพลงหรืองานมัลติมีเดียเพื่อให้เกิดความสมจริงและคมชัดมากที่สุด การเก็บข้อมูลจะมีการแบ่งออกเป็นชั้น ๆ เรียกว่า เลเยอร์ (Layer ) และสามารถเก็บข้อมูลได้ทั้งสองด้าน (sides ) ความจุของ DVD จะมีมากกว่า CD หลายเท่าตัว
แต่ปัจจุบันไม่เป็นที่นิยมเท่าหน่วยความจำแบบแฟรช (Flash memory device) โดยมีตั้งแต่ 4.7 GB - 17 GB แยกได้ดังนี้

         DVD-ROM เป็นแผ่น DVD ที่ผลิตจากบริษัทหรือโรงงานโดยตรง มักใช้สำหรับเก็บข้อมูลขนาดใหญ่มาก เช่น ภาพยนตร์ความคมชัดสูงและต้องการเสียงที่สมจริง รวมถึงการสำรองข้อมูลขนาดใหญ่ที่ CD-ROM ทั่วไปไม่สามารถจัดเก็บหรือบันทึกได้
ผลการค้นหารูปภาพสำหรับ DVD หนัง
ภาพจาก http://www.thaibizcenter.com/memberzone/images/Classifieds_Image2132553192445.jpg

          DVD-R และ DVD-RW เป็นแผ่น DVD ประเภทเขียนข้อมูลได้ตามมาตรฐานขององค์กร DVD Forum (www.dvdforum.org) มีความจุข้อมูลสูงสุดขณะนี้ 4.7 GB  การเขียนข้อมูลสำหรับ DVD-R สามารถเขียนและบันทึกข้อมูลได้เพียงครั้งเดียวเหมือนกับการเขียนแผ่น CD-R ส่วน DVD-RW จะเขียนและบันทึกข้อมูลซ้ำหลาย ๆ ครั้ง วิธีการเขียนข้อมูลอาจเติมเฉพาะข้อมูลใหม่ลงไปโดยลบอันเก่าทิ้งทั้งแผ่นหรือจะ import ข้อมูลอันเก่ามารวมกับของใหม่แล้วเขียนไปพร้อม ๆ กันก็ได้
ผลการค้นหารูปภาพสำหรับ DVD r
ภาพจาก http://filip.fura.sweb.cz/dvd-r.png


          DVD+R และ DVD+RW เป็นกลุ่มของ DVD ที่เขียนข้อมูลได้เช่นเดียวกันแต่เป็นมาตรฐานขององค์กร DVD+RW Alliance (www.dvdrw.com) ซึ่งเกิดขึ้นภายหลัง มีความจุสูงสุดคือ 4.7 GB  การเขียนข้อมูลของ DVD+Rและ DVD+RW จะคล้าย ๆ กันกับกลุ่มมาตรฐานเดิมแต่ความเร็วในการเขียนแผ่นจะมีมากกว่า
ผลการค้นหารูปภาพสำหรับ DVD r
ภาพจาก http://filip.fura.sweb.cz/dvd+r.png


          ไดรฟ์เขียนแผ่น DVD ปัจจุบันมักเขียนได้ทั้งแบบ +RW และ – RW เรียกกันว่าแบบ Dual format นอกจากนี้ยังมีไดรว์และแผ่นรุ่นใหม่ที่บันทึกข้อมูลได้มากถึงเกือบสองเท่าของแบบธรรมดา คือจุได้ 8.5 GB (เทียบเท่า DVD-9 ) โดยบันทึกข้อมูลสองชั้นซ้อนกันในด้านเดียว เรียกว่าแผ่นและไดรว์แบบ Double Layer ( บางทีก็เรียก Dual Layer)
ผลการค้นหารูปภาพสำหรับ DVD r
ภาพจาก https://upload.wikimedia.org/wikipedia/commons/a/a6/DVD%2BRDL.JPG


3. บลูเรย์ (Blu-ray) เป็นเทคโนโลยีการบันทึกข้อมูลลงแผ่น Blu-ray Disc (BD) ซึ่งมีความจุในการเก็บข้อมูลสูงกว่า DVD หลายเท่า ปัจจุบันถ้าเป็นแผ่นแบบหน้าเดียว Single-layer จะมีความจุสูงสุด 25 GB ถ้าเป็น Doble-layer ก็จะมีความจุเป็น 2 เท่า นั้นคือ 50 GB DVD จะใช้แสงสีแดงในการอ่านและบันทึกข้อมูล แต่ Blu-ray จะใช้แสงสีน้ำเงินในการอ่านและบันทึกข้อมูล วัตถุประสงค์หลักของเทคโนโลยีก็คือ การใช้สำหรับบันทึกไฟล์วีดีโอคุณภาพสูงที่เรียกว่า HD (High Definition) Full HD,  2K และ 4K (ศึกษาเรื่องความละเอียดของวีดีโอเพิ่มเติมได้ที่นี่)
รูปภาพที่เกี่ยวข้อง
ภาพจาก https://d.allegroimg.com/s400/015eec/f759315740e19b25bdbeb062fb3d

ที่มา http://www.it-guides.com/technology-updated/blu-ray-technology




3. อุปกรณ์หน่วยความจำแบบแฟรช (Flash memory device) 

          Flash Drive ปัจจุบันนำมาใช้บันทึกแทนสื่อเก็บข้อมูลแบบอื่นๆ มากขึ้น เพราะเขียนข้อมูลได้เร็วกว่ามาก ะจุข้อมูลได้มากกว่าหลายเท่า เชื่อมต่อได้ง่าย และพกพาสะดวก ปัจจุบันมีความจุสูงสุดที่ 64 GB นิยมใช้กับเครื่องพีซีและคอมพิวเตอร์แบบพกพาทั่วไป โดยเชื่อมต่อผ่านพอร์ต ยูเอชบี (USB) มีชื่อเรียกแตกต่างกัน เช่น Flash Drive, Thumb Drive , USB Drive หรือ Handy Drive โดยสามารถต่อพ่วงเข้ากับเครื่องคอมพิวเตอร์และอ่านค่าข้อมูลนั้นได้โดยตรง มีความเร็วได้การอ่านและเขียนข้อมูลมากกว่า CD/DVD หลายเท่า
ผลการค้นหารูปภาพสำหรับ flash drive
ภาพจากhttp://www.เกร็ดความรู้.net/wp-content/uploads/2015/03/flash-drive-content.jpg


          Memory Card ถือว่าเป้นอุปกรณ์หน่วยความจำแบบแฟรชเช่นกัน ใช้สำหรับจัดเก็บข้อมูลประเภทภาพถ่ายหรือข้อมูลที่มีขนาดใหญ่ในอุปกรณ์ดิจิตอลแบบพกพาทั้งหลาย เช่น กล้องถ่ายรูปดิจิตอล ซึ่งมีหลายฟอร์แมต (ดังรูป) เช่น Compact Flash (CF), SmartMedia ( เลิกผลิตแล้ว), Secure Digital และ Multimedia Memory Card (SD Card/MMC Card ซึ่งมีขนาดเท่ากัน) Micro SD Card และ Memory Stick โดยการอ่านข้อมูลอาจใช้อุปกรณ์ดิจิตอลนั้นต่อพ่วงเข้ากับคอมพิวเตอร์โดยตรงหรือใช้อุปกรณ์พิเศษที่เรียกว่า card reader ช่วยอ่านข้อมูลที่เก็บอยู่ภายในได้เช่นเดียวกัน
          **memory card ที่ได้รับความนิยมสูงสุดในปัจจุบัน คือ Micro Secure Digital หรือ Micro SD Card ซึ่งพัฒนามาจาก SD ปัจจุบันมีความจุสูงสุดอยู่ที่ 64 GB โดยมีความเร็วในการเขียนข้อมูล (Class) ที่แตกต่างกัน
ผลการค้นหารูปภาพสำหรับ Micro SD Card
Micro SD Card
ภาพจาก https://www.jib.co.th/jib_content/images/content/SDSDQM_016G_B35-thumb.jpg

ผลการค้นหารูปภาพสำหรับ card reader
Card Reader
ภาพจาก http://www.comgeeks.net/wp-content/uploads/2014/07/card-reader.jpg




ที่มา https://sites.google.com/site/hardwaersahrabsux/xupkrn-cad-keb-khxmul-data-storage-device

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น