สื่อหรืออุปกรณ์บันทึกข้อมูล
1. สื่อเก็บข้อมูลแบบจานแม่เหล็ก (Magnetic Disk Device)
เป็นอุปกรณ์บันทึกข้อมูลประเภทที่ใช้งานเป็นลักษณะของจานบันทึก ( disk )ซึ่งมีหลายประเภท ดังนี้
1.1 ฟล็อปปี้ดิสก์ (Floppy Disks) สื่อเก็บบันทึกข้อมูลที่ได้รับความนิยมและใช้งานอย่างแพร่หลายในอดีต (ปัจจุบันเลิกใช้แล้ว) นิยมเรียกอีกชื่อหนึ่งว่า ดิสเก็ตต์ (Diskette) หรือแผ่นดิสก์ การเก็บข้อมูลจะมีจานบันทึก ซึ่งเป็นวัสดุอ่อนจำพวกพลาสติกที่เคลือบสารแม่เหล็กอยู่ด้านใน และห่อหุ้มด้วยกรอบพลาสติกแข็งอีกชั้นหนึ่ง แผ่นดิสก์ในอดีตจะมีขนาดจานบันทึกที่ใหญ่มากถึง 5.25 นิ้ว และพัฒนามาเป็นขนาด 3.5 นิ้วแทน มีความจุเพียง 1.44 MB
ภาพจาก https://upload.wikimedia.org/wikipedia/commons/thumb/a/aa/Floppy_disk_2009_G1.jpg/450px-Floppy_disk_2009_G1.jpg
1.2 ฮาร์ดดิสก์ (Hard Disks) เป็นอุปกรณ์เก็บบันทึกข้อมูลที่มีโครงสร้างคล้ายกับดิสเก็ตต์ แต่จุข้อมูลมากกว่าและมีความเร็วในการเข้าถึงข้อมูลสูงกว่า จะถูกติดตั้งอยู่ภายในเครื่องคอมพิวเตอร์ เป็นส่วนสำคัญสำหรับเก็บตัวโปรแกรมระบบปฏิบัติการ รวมถึงโปรแกรมประยุกต์อื่น ๆ ฮาร์ดดิสก์ผลิตมาจากวัสดุแบบแข็งจำนวนหลายแผ่นวางเรียงต่อกันเป็นชั้น จานแม่เหล็กแต่ละจาน เรียกว่า แพลตเตอร์ (Platter) ซึ่งอาจจะมีจำนวนต่างกันได้ในฮาร์ดดิสก์แต่ละรุ่น ปัจจุบันมีความจุสูงสุด 4 TB และมีแนวโน้มจะเพิ่มขึ้นในอนาคต
ภาพจาก https://sites.google.com/site/hardwaersahrabsux/_/rsrc/1377781764063/xupkrn-cad-keb-khxmul-data-storage-device/ddddd.jpg
1.3 Solid State Drive : SSD คืออุปกรณ์อิเล็กทรนิกส์ที่ทำหน้าที่เหมือนกับฮาร์ดดิกส์เพียงแต่หลักการทำงานนั้นแตกต่างจากฮาร์ดดิกส์รุ่นเก่า ซึ่งฮาร์ดดิกส์ SSD ถือได้ว่าเป็นฮาร์ดดิกส์รุ่นใหม่ที่กำลังมาแรงที่สุด เพราะมีความเร็วในการอ่านข้อมูลมากกว่า ฮาร์ดดิสก์ (Hard Disk) หลายเท่าตัว มีความทนทานกว่า แต่จะมีความจุน้อยกว่าฮาร์ดดิสก์ธรรมดา และราคาสูงตามไปด้วย โดยเราสามารถแบ่งฮาร์ดดิกส์ SSD ได้ 2 แบบด้วยกันคือ
1. NOR Flash จะมีการเรียงหน่วยความจำแบบขนานเพื่อให้เพื่อให้เข้าถึงข้อมูลได้อย่างอิสระและรวดเร็ว เสียอย่างเดียวมีความจุต่ำและราคาแพงมาก
2. NAND Flash สามารถเข้าถึงข้อมูลแบบที่ละบล็อค แต่มีความจุสูงกว่าแบบแรก ซึ่งแบบนี้จะมีโครงสร้างและลักษณะการทำงานเหมือนกับ Flash Driver ที่ใช้อยู่ในปัจจุบันนั้นเองโดยสามารถแบ่งออกได้อีก 2 แบบด้วยกัน คือ Single Level Cell(SLC) และ Multi-Level Cell (MLC)
ที่มา : http://www.xn--12cg1cxchd0a2gzc1c5d5a.net/ssd/
ภาพจาก http://img.tarad.com/shop/d/dunk/img-lib/spd_2012042882753_b.jpg
1.4 External Hard Disk คือ อุปกรณ์เก็บข้อมูลคอมพิวเตอร์ภายนอกชนิดหนึ่งที่สามารถพกพาหรือนำติดตัวไปยังสถานที่ต่างๆ เป็น ฮาร์ดดิสก์ (Hard Disk) แบบเดียวกับที่อยู่ในเครื่องคอมพิวเตอร์ แต่ต่างกันตรงที่ External Hard Disk นี้ใช้เชื่อมต่อภายนอกเครื่องคอมพิวเตอร์ โดยเชื่อมต่อผ่านพอร์ต ยูเอชบี (USB) เหมือนหน่วยความจำแบบแฟรช (Flash memory device)

ภาพจาก http://mmfashion.org/image//Computer/USB-Hard-Drive.jpg
2. สื่อเก็บข้อมูลแสง (Optical Storage Device)
เป็นสื่อเก็บข้อมูลสำรองที่เคยได้รับความนิยม แต่ปัจจุบันไม่เป็นที่นิยมเท่าหน่วยความจำแบบแฟรช (Flash memory device) ซึ่งใช้หลักการทำงานของแสงเข้ามาช่วย การจัดเก็บข้อมูลจะคล้ายกับแผ่นจานแม่เหล็ก แต่ต่างกันที่การแบ่งวงของแทรคจะแบ่งเป็นลักษณะคล้ายรูปก้นหอยและเริ่มเก็บบันทึกข้อมูลจากส่วนด้านในออกมาด้านนอก และแบ่งส่วนย่อยของแทรคออกเป็นเซกเตอร์เช่นเดียวกันกับแผ่นจานแม่เหล็ก
1. CD (Compact Disc) เป็นสื่อเก็บข้อมูลด้วยแสงแบบแรกที่เคยได้รับความนิยมอย่างแพร่หลาย สามารถจุข้อมูลได้สูงสุด 650-750 MB ซึ่งแยกออกได้ดังนี้
CD-ROM (Compact Disc Read Only Memory) ผู้ใช้สามารถอ่านข้อมูลได้อย่างเดียวแต่ไม่สามารถเขียนหรือบันทึกข้อมูลซ้ำได้ โดยมากแล้วจะเป็นแผ่นที่ปั๊มมาจากโรงงานหรือบริษัทผู้ผลิตมาแล้ว เช่น CD เพลง CD ภาพยนตร์
ภาพจาก https://encrypted-tbn3.gstatic.com/images?q=tbn:ANd9GcSY3a3EwJxt0YyWoLaywjNSu2UHkRhXv8OYL1FC0xsog3-IrHCX
CD-R (Compact Disc Recordable) พบเห็นได้ตามร้านจำหน่ายอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ทั่วไป สามารถใช้ไดรฟ์เขียนแผ่น (CD Write) บันทึกข้อมูลได้และหากเขียนข้อมูลลงไปแล้วยังไม่เต็มแผ่นก็สามารถเขียนเพิ่มเติมได้ แต่ไม่สามารถลบข้อมูลที่เขียนไว้แล้วได้ เนื่องจากเนื้อที่บนแผ่นแต่ละจุดจะเขียนข้อมูลได้ครั้งเดียว เขียนแล้วเขียนเลยจะลบทิ้งอีกไม่ได้ เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการบันทึกไฟล์ข้อมูลเพื่อเก็บรักษาทั่วไป เช่น ภาพถ่ายจากกล้องดิจิตอล เพลง mp3 หรือไฟล์งานข้อมูลซึ่งในเครื่องคอมพิวเตอร์ส่วนตัว
ภาพจาก https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEj7PQ6Wrhpt6y-ENW_8j5BuMEemL_nAUio7iuYfn-Lmh8h3W7mlw2le1_RwYjaeVmSUCOSFMZODamAws12S7qjsU0qkHPebwON5Qbb88eDgyo1sPRhkAMfylYtAUZE3GcItBqhow3eqqGA/s200/412531.jpg
CD-RW (Compact Disc Rewritable) แผ่นชนิดนี้มีลักษณะหน้าตาเหมือนกับแผ่น CD-R ทุกประการแต่มีข้อดีกว่าคือ นอกจากเขียนบันทึกข้อมูลได้หลายครั้งแล้ว ยังสามารถลบข้อมูลและเขียนซ้ำใหม่ได้เรื่อย ๆ เหมือนกับการบันทึกและเขียนซ้ำของดิสเก็ตต์ อย่างไรก็ตามแผ่น CD-RW ขณะนี้ยังมีราคาสูงกว่า CD-R อยู่พอสมควร จึงเหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการบันทึกข้อมูลที่มีการเปลี่ยนแปลงบ่อยและเก็บข้อมูลไว้ในระยะเวลาอันสั้น ไม่ถาวร ซึ่งจะช่วยทำให้ประหยัดค่าใช้จ่ายไปได้มาก เพราะสามารถลบทิ้งแล้วเขียนใหม่อีกได้ถึงกว่าพันครั้ง
ภาพจาก https://cdn4.iconfinder.com/data/icons/Antares_Complete_Pack/512/Devices/CD-RW.png
2. DVD (Digital Versatile Disc/Digital Video Disc) ผลิตมาเพื่อตอบสนองกับงานเก็บข้อมูลความจุสูง เช่น เพลงหรืองานมัลติมีเดียเพื่อให้เกิดความสมจริงและคมชัดมากที่สุด การเก็บข้อมูลจะมีการแบ่งออกเป็นชั้น ๆ เรียกว่า เลเยอร์ (Layer ) และสามารถเก็บข้อมูลได้ทั้งสองด้าน (sides ) ความจุของ DVD จะมีมากกว่า CD หลายเท่าตัวแต่ปัจจุบันไม่เป็นที่นิยมเท่าหน่วยความจำแบบแฟรช (Flash memory device) โดยมีตั้งแต่ 4.7 GB - 17 GB แยกได้ดังนี้
DVD-ROM เป็นแผ่น DVD ที่ผลิตจากบริษัทหรือโรงงานโดยตรง มักใช้สำหรับเก็บข้อมูลขนาดใหญ่มาก เช่น ภาพยนตร์ความคมชัดสูงและต้องการเสียงที่สมจริง รวมถึงการสำรองข้อมูลขนาดใหญ่ที่ CD-ROM ทั่วไปไม่สามารถจัดเก็บหรือบันทึกได้
ภาพจาก http://www.thaibizcenter.com/memberzone/images/Classifieds_Image2132553192445.jpg
DVD-R และ DVD-RW เป็นแผ่น DVD ประเภทเขียนข้อมูลได้ตามมาตรฐานขององค์กร DVD Forum (www.dvdforum.org) มีความจุข้อมูลสูงสุดขณะนี้ 4.7 GB การเขียนข้อมูลสำหรับ DVD-R สามารถเขียนและบันทึกข้อมูลได้เพียงครั้งเดียวเหมือนกับการเขียนแผ่น CD-R ส่วน DVD-RW จะเขียนและบันทึกข้อมูลซ้ำหลาย ๆ ครั้ง วิธีการเขียนข้อมูลอาจเติมเฉพาะข้อมูลใหม่ลงไปโดยลบอันเก่าทิ้งทั้งแผ่นหรือจะ import ข้อมูลอันเก่ามารวมกับของใหม่แล้วเขียนไปพร้อม ๆ กันก็ได้
ภาพจาก http://filip.fura.sweb.cz/dvd-r.png
DVD+R และ DVD+RW เป็นกลุ่มของ DVD ที่เขียนข้อมูลได้เช่นเดียวกันแต่เป็นมาตรฐานขององค์กร DVD+RW Alliance (www.dvdrw.com) ซึ่งเกิดขึ้นภายหลัง มีความจุสูงสุดคือ 4.7 GB การเขียนข้อมูลของ DVD+Rและ DVD+RW จะคล้าย ๆ กันกับกลุ่มมาตรฐานเดิมแต่ความเร็วในการเขียนแผ่นจะมีมากกว่า
ภาพจาก http://filip.fura.sweb.cz/dvd+r.png
ไดรฟ์เขียนแผ่น DVD ปัจจุบันมักเขียนได้ทั้งแบบ +RW และ – RW เรียกกันว่าแบบ Dual format นอกจากนี้ยังมีไดรว์และแผ่นรุ่นใหม่ที่บันทึกข้อมูลได้มากถึงเกือบสองเท่าของแบบธรรมดา คือจุได้ 8.5 GB (เทียบเท่า DVD-9 ) โดยบันทึกข้อมูลสองชั้นซ้อนกันในด้านเดียว เรียกว่าแผ่นและไดรว์แบบ Double Layer ( บางทีก็เรียก Dual Layer)
ภาพจาก https://upload.wikimedia.org/wikipedia/commons/a/a6/DVD%2BRDL.JPG
3. บลูเรย์ (Blu-ray) เป็นเทคโนโลยีการบันทึกข้อมูลลงแผ่น Blu-ray Disc (BD) ซึ่งมีความจุในการเก็บข้อมูลสูงกว่า DVD หลายเท่า ปัจจุบันถ้าเป็นแผ่นแบบหน้าเดียว Single-layer จะมีความจุสูงสุด 25 GB ถ้าเป็น Doble-layer ก็จะมีความจุเป็น 2 เท่า นั้นคือ 50 GB DVD จะใช้แสงสีแดงในการอ่านและบันทึกข้อมูล แต่ Blu-ray จะใช้แสงสีน้ำเงินในการอ่านและบันทึกข้อมูล วัตถุประสงค์หลักของเทคโนโลยีก็คือ การใช้สำหรับบันทึกไฟล์วีดีโอคุณภาพสูงที่เรียกว่า HD (High Definition) Full HD, 2K และ 4K (ศึกษาเรื่องความละเอียดของวีดีโอเพิ่มเติมได้ที่นี่)
ภาพจาก https://d.allegroimg.com/s400/015eec/f759315740e19b25bdbeb062fb3d
ที่มา http://www.it-guides.com/technology-updated/blu-ray-technology
3. อุปกรณ์หน่วยความจำแบบแฟรช (Flash memory device)
Flash Drive ปัจจุบันนำมาใช้บันทึกแทนสื่อเก็บข้อมูลแบบอื่นๆ มากขึ้น เพราะเขียนข้อมูลได้เร็วกว่ามาก ะจุข้อมูลได้มากกว่าหลายเท่า เชื่อมต่อได้ง่าย และพกพาสะดวก ปัจจุบันมีความจุสูงสุดที่ 64 GB นิยมใช้กับเครื่องพีซีและคอมพิวเตอร์แบบพกพาทั่วไป โดยเชื่อมต่อผ่านพอร์ต ยูเอชบี (USB) มีชื่อเรียกแตกต่างกัน เช่น Flash Drive, Thumb Drive , USB Drive หรือ Handy Drive โดยสามารถต่อพ่วงเข้ากับเครื่องคอมพิวเตอร์และอ่านค่าข้อมูลนั้นได้โดยตรง มีความเร็วได้การอ่านและเขียนข้อมูลมากกว่า CD/DVD หลายเท่า
ภาพจากhttp://www.เกร็ดความรู้.net/wp-content/uploads/2015/03/flash-drive-content.jpg
Memory Card ถือว่าเป้นอุปกรณ์หน่วยความจำแบบแฟรชเช่นกัน ใช้สำหรับจัดเก็บข้อมูลประเภทภาพถ่ายหรือข้อมูลที่มีขนาดใหญ่ในอุปกรณ์ดิจิตอลแบบพกพาทั้งหลาย เช่น กล้องถ่ายรูปดิจิตอล ซึ่งมีหลายฟอร์แมต (ดังรูป) เช่น Compact Flash (CF), SmartMedia ( เลิกผลิตแล้ว), Secure Digital และ Multimedia Memory Card (SD Card/MMC Card ซึ่งมีขนาดเท่ากัน) Micro SD Card และ Memory Stick โดยการอ่านข้อมูลอาจใช้อุปกรณ์ดิจิตอลนั้นต่อพ่วงเข้ากับคอมพิวเตอร์โดยตรงหรือใช้อุปกรณ์พิเศษที่เรียกว่า card reader ช่วยอ่านข้อมูลที่เก็บอยู่ภายในได้เช่นเดียวกัน
**memory card ที่ได้รับความนิยมสูงสุดในปัจจุบัน คือ Micro Secure Digital หรือ Micro SD Card ซึ่งพัฒนามาจาก SD ปัจจุบันมีความจุสูงสุดอยู่ที่ 64 GB โดยมีความเร็วในการเขียนข้อมูล (Class) ที่แตกต่างกัน

Micro SD Card
ภาพจาก https://www.jib.co.th/jib_content/images/content/SDSDQM_016G_B35-thumb.jpg
Card Reader
ภาพจาก http://www.comgeeks.net/wp-content/uploads/2014/07/card-reader.jpg
ที่มา https://sites.google.com/site/hardwaersahrabsux/xupkrn-cad-keb-khxmul-data-storage-device
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น